เกมรับพิชิตพลังบุก โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้ฝึกสอนทีมชาติอิตาลี นำผู้ร่วมทีมกรุยทางไปสู่รอบชิงแชมป์ ศึกยูโร 2020 ได้สำเร็จ
เกมรับพิชิตพลังบุก โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้ฝึกสอนทีมชาติอิตาลี นำผู้ร่วมทีมกรุยทางไปสู่รอบชิงแชมป์ ศึกยูโร 2020 ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ สเปนด้วยการดวลจุดลูกโทษ 4-2 ข้างหลังเท่ากันในเวลา 120 นาที 1-1 เมื่อวันอังคารที่ 6 เดือนกรกฎาคมก่อนหน้านี้
กองทัพ “อัซซูรี่” พยายามเล่นอย่างรัดกุม รวมทั้งมีสมาธิเพื่อคอยจังหวะสวนกลับรวมทั้งมาทำสำเร็จจาก เฟเดริโก้ เคียซ่า ในช่วงกลางช่วงหลัง แต่ว่า อัลบาโร่ โมราต้า ที่ถูกส่งเป็นตัวสำรอง ช่วยสเปน ตีเสมอในตอน 10 นาทีท้ายที่สุด
แล้วก็ต่อจากนั้นจำต้องยืดเวลาพิเศษ ในที่สุดไม่มีทีมไหนยิงเพิ่ม เลยจำเป็นต้องไปดวลจุดลูกโทษ รวมทั้งเป็นอิตาลี ที่ถูกต้องกว่าคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ในตอนนี้ อิตาลีไปยืนคอยในรอบชิงแชมป์เป็นระเบียบแล้ว
แล้วก็รอคอยพบกับผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ กับ เดนมาร์ก โดยช่วงนี้พวกเขามีลุ้นที่จะครอบครองแชมป์ยูโรสมัยที่ 2 ในหน้าประวัติศาสตร์แวดวงลูกหนังแดนมะกะโรนี จอร์จินโญ่ โชว์ผลงานยอดเยี่ยม จอร์จินโญ่เคยจำต้องเจอกับฤดูกาลที่แสนตกต่ำ
ตอนเล่นให้กับ เชลซี สมัยที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ปฏิบัติภารกิจกุมบังเหียน แม้กระนั้นสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้เขาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมเกินห้ามใจสำหรับในการนำอิตาลี ทะลุไปสู่รอบชิงแชมป์ ศึกยูโร 2020
มิดฟิลด์จากกองทัพ “สิงโตน้ำเงินคราม” ปฏิบัติภารกิจคุมจังหวะการเล่นได้อย่างดียิ่ง, เชื่อมเกมแดนกึ่งกลางกับแนวรุก ที่สำคัญยังเล่นเกมรยอมรับได้อย่างแน่นแฟ้น ทำให้แผงกองกลางสเปน จะต้องพบงานหนักไม่อาจจะปั้นเกมได้มากนัก
จอร์จินโญ่ ติดต่อประสานงานกันได้อย่างพอดีกับ นิโคโล่ บาเรลล่า แล้วก็ มาร์โก แวร์รัตติ โดยยิ่งไปกว่านั้นสำหรับการเล่นด้วยความอดทนเพื่อรองจังหวะสวนกลับจนถึงทีมได้ประตูขึ้นนำจาก เฟเดริโก้ เคียซ่า ในตอนกึ่งกลางช่วงหลัง
นอกเหนือจากนี้เขายังเป็นคนยิงจุดลูกโทษคนท้ายที่สุดซึ่งเต็มไปด้วยแรงกดดัน แม้กระนั้นก็สามารถจ่ายบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายได้สำเร็จ ทำให้ช่วงนี้ “อัซซูรี่” ได้โอกาสที่จะคว้าโทรฟี่อองรี เดอโลเน่ย์ สมัยที่ 2
เคียซ่า เล่นได้เด่นเมื่ออยู่ในเวมบลีย์ ถ้าหากย้อนกลับไปเมื่อ 10 วันก่อน เฟเดริโก้ เคียซ่า ถูกส่งลงมาเล่นเป็นตัวสำรอง ก่อนจะทำประตูให้ทีมขึ้นนำ รวมทั้งเปลี่ยนเป็นแสงไฟสำหรับในการกรุยทางทำให้ “อัซซูรี่” ปราบ ออสเตรีย ในรอบ 16 ทีมในที่สุดที่สนามเวมบลีย์
สำหรับในแมตช์นี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ตกลงใจเลือกให้เขาลงเล่นเป็นตัวจริง และก็ ตัวรุกวัย 23 ปี ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อทำผลงานได้ดิบได้ดีเหมาะสมที่สุด และยังทำประตูให้ทีมขึ้นนำที่สนามกีฬาแห่งชาติของอังกฤษอีกรอบ
ถ้าหากจำกันได้ เคียซ่า ถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ ยูเวนตุส เมื่อฤดูกาลก่อนหน้านี้ แต่ว่าผลงานของเขาสะดุดตากว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แล้วก็แน่นอนว่าฟอร์มกับทีมชาติอย่างนี้อาจทำให้ “ม้าลาย” ต้องการเก็บเขาเอาไว้ใช้งานอีกต่อไป
เกมรับพิชิตพลังบุก เอ็นริโก้ เคียซ่า พ่อของเขาเคยสร้างชื่อด้วยการทำประตูให้อิตาลี ที่สนามแอนฟิลด์ ในศึกยูโร 96 สำหรับในตอนนี้ เคียซ่าจูเนียร์ ทำผลงานได้เฉิดฉายมากยิ่งกว่าผู้ให้กำเนิด และก็บางครั้งอาจจะนำการบรรลุเป้าหมายกลับไปสู่ดินแดนพาสต้าก็ได้ บ้านผลบอลทีเด็ดวันนี้
การเอาชนะ สเปน ด้วยการดวลจุดลูกโทษ 4-2 หลังเท่ากันในเวลา 120 นาที 1-1
เกมรับพิชิตพลังบุก ฟาดฟันด้วยสไตล์ที่แต่ละทีมถนัด นี่คือหนึ่งในเกมฟุตบอลที่ทุกๆคนคงจะได้มองเห็นเต็มสองตาว่ามันเป็นการวางแท็กติกแบบดั่งเดิมของอิตาลี กับสเปน โดยทีมหนึ่งเน้นย้ำตั้งรับแน่นแฟ้น ส่วนอีกทีมพยายามครอบครองบอลแล้วก็เปิดเกมรุกเข้าใส่
สเปนพยายามครอบครองบอลแล้วก็คุมสถานการณ์ในแมตช์นี้ พวกเขาค่อยๆสร้างเกมแบบช้าๆต่อบอลกันไปเรื่อยๆและผ่านบอลตามช่องเพื่อหวังเจาะแนวรับของอิตาลี ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าเกือบจะทำสำเร็จหลายครั้ง
ในขณะที่อิตาลี ถึงแม้ในสมัยของ “มันโช่” จะเน้นย้ำเกมบุกมากขึ้นแม้กระนั้นเมื่อพบกับทัพ “กระทิงดุ” ที่มีสไตล์ที่ดุเดือดมากยิ่งกว่า เขาก็จำต้องเลือกวางแท็กติกที่ถนัดซึ่งก็คือตั้งรับและก็รอสวนกลับ โดยงานนี้แผงแนวรับของ “อัซซูรี่” เล่นได้แน่นแฟ้นตามแผนที่วางเอาไว้จริงๆ
จังหวะที่ทีมได้ประตูนับว่าเป็นสูตรสำเร็จของอิตาลี มาช้านาน โดยเป็นการเริ่มสวนกลับตั้งแต่ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ที่จ่ายบอลเร็วจากหน้าประตูก่อนที่จะต่อบอลอย่างเที่ยงตรง แล้วก็จบที่ เคียซ่า ซัดเข้าไปอย่างงดงาม
หากว่าในตอน 10 นาทีท้ายที่สุด สเปนจะไล่ตีเสมอได้สำเร็จจาก อัลบาโร่ โมราต้า ก็ตาม แม้กระนั้นจากนั้น อิตาลีก็เล่นสไตล์ตั้งรับแบบไม่มีเสียทรงกระบวน และก็หวังไปลุ้นสำหรับการดวลจุดโทษ ในที่สุด อิตาลีก็ไปถึงเป้าหมายตามแผนการที่ตั้งเอาไว้
จะเห็นได้ชัดว่า มันชินี่ บางครั้งอาจจะใช้แท็กติกที่ไม่เหมือนกันเมื่อเจอกับทีมที่เข้มแข็ง แม้กระนั้นชัยเป็นคำตอบที่สำคัญที่สุด โมราต้า กับทัวร์นาเมนต์ที่ยากลืม โมราต้า ไม่เคยได้รับการเชิดชูว่าเป็นกองหน้าสุดยอด
ถึงแม้เขาจะยิงระตูสำคัญๆในอาชีพพ่อค้าลำแข้งก็ตาม โดยเหตุผลสำคัญก็คือเขามักจะทำผลพลาดเป็นประจำในทัวร์นาเมนต์สำคัญระดับชาติ ทดลองเปรียบความเฉียบคมของ โมราต้า กับศูนย์หน้าจอมถล่มประตูอย่าง ดาบิด บีย่า หรือ เฟร์นานโด้ โคนร์เรส ในช่วงรุ่งๆจะเห็นได้ชัดเจนว่าเขายังห่างชั้นในประเด็นการจบสกอร์ที่เฉียบคม
ในทัวร์นาเมนต์นี้ โมราต้า โดนวิจารณ์มากไม่น้อยเลยทีเดียวเพราะเหตุว่าสเปน เป็นทีมที่สร้างจังหวะได้มากมาย แต่ว่าเขากลับทำผิดพลาดบ่อยมากหลายหน แม้กระนั้นสำหรับในรอบรองฯ ที่จำต้องเจอกับอิตาลี ดูราวกับว่า หลุยส์ เอ็นรีเก้ จำเป็นจะต้องปรับแท็กติก
เหตุเพราะแผงหลังคู่ต่อสู้อย่างเลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ รู้จักดีกับวิธีการเล่นของ โมราต้า อย่างดีเยี่ยม และก็คงจะทราบว่านักฟุตบอลมีจุดอ่อนตรงไหน แต่ว่าท้ายที่สุดในสถานการณ์ที่ทีมอยากได้ประตูทำให้ เอ็นรีเก้ จำเป็นต้องเลือกส่ง โมราต้า ลงมากู้วิกฤติและก็ทำเป็นสำเร็จ
อย่างไรก็แล้วแต่ถ้าหากมองดูจากภาพรวมแล้วจำเป็นต้องบอกเลยว่า โมราต้า ทำผลงานได้น่าผิดหวังในทัวร์นาเมนต์นี้จริงๆ อิตาลี รักษาสถิติไม่แพ้ทีมใดถัดไป อิตาลียังคงสร้างสถิติที่ยอดเยี่ยมในตอน 3 ปีให้หลัง
โดยพวกเขาเพิ่มสถิติไม่มีปราชัยนานเป็น 33 นัดหมายในทุกรายการ รวมทั้งยังเพิ่มสถิติด้วยการไม่แพ้ในศึกยูโร ยาวนานถึง 16 นัดหมาย (นับรวมรอบคัดเลือก) มันชินี่ สร้างอิตาลี ให้เปลี่ยนเป็นกลุ่มที่แกร่ง และก็จะต้องบอกเลยว่านี่เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เข้มแข็งที่สุดในยุโรป ที่สำคัญฟอร์มของพวกเขาในเวลานี้ได้โอกาสบรรเจิดที่จะครอบครองแชมป์ยูโร 2020 อย่างยิ่งจริงๆ
อิตาลีสามารถผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ (ฟุตบอลโลก/ยูโร) ได้ถึง 10 ครั้ง โดยมีเพียงแต่ เยอรมนี (14 ครั้ง) ที่มีสถิติสำหรับเพื่อการทะลุเข้าไปในรอบชิงมากยิ่งกว่าพวกเขา
เกมรับพิชิตพลังบุก สำหรับ อิตาลีชุดนี้ ทำลายสถิติไม่มีพ่ายของ อิตาลีชุดที่ครอบครองแชมป์ฟุตบอลโลก 1930 แต่ว่า มันชินี่ เคยกล่าวเอาไว้ว่าสถิติกลุ่มนี้จะไม่มีความหมายอะไรเลยหากท้ายที่สุดแล้วพวกเขาไม่สามารถที่จะนำโทรฟี่แชมป์กลับสู่แผ่นดินแม่ได้ !! ชุดรองแชมป์ยูโร
